ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนเกาะคอเขา

ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนเกาะคอเขา เที่ยวเกาะคอเขา ดูปะการังเกาะผ้า ช?

12/06/2025
11/06/2025
10/06/2025
10/06/2025
วันนี้ วันที่ 6 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30-12.00 น.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่6(สทช.6) และเครือข่ายชุมชนตำบลเกาะค...
06/06/2025

วันนี้ วันที่ 6 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30-12.00 น.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่6(สทช.6) และเครือข่ายชุมชนตำบลเกาะคอเขาจัดกิจกรรม"จิตอาสาเก็บขยะทะเลเนื่องในวันทะเลโลก 8 มิถุนายน 2568 "ภายใต้โครงการ 30+Island Clean Up So Cool Mission 2025 เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาขยะทะเล โดยเฉพาะขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี ณ ตำบลเกาะคอเขา อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นพร้อมกันทั้งบริเวณชายหาดเกาะคอเขา(หาด ม.3 บ้านปากเกาะ หาด ม.4 บ้านทุ่งตึก หาด ม.5 บ้านบางเนียง หาด ม.2 บ้านนอกนา และ ชายฝั่ง ม.1 บ้านเมืองใหม่) ตลอดแนวยาวกว่า 25 กิโลเมตร มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมากจากหลายภาคส่วน ทั้งท้องที่ ท้องถิ่น อสม. ทสม. รพสต.ในตำบล โรงเรียนในพื้นที่ สถานประกอบการ และประชาชนในตำบลเกาะคอเขา สามารถจัดเก็บขยะได้ จำนวน 2,275 กิโลกรัม
ในโอกาสนี้ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความสำคัญในเรื่องการจัดการขยะในพื้นที่ ต.เกาะคอเขา และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมในวันนี้
#เกาะคอเขา

👉  #มาตรฐานการท่องเที่ยว
03/06/2025

👉 #มาตรฐานการท่องเที่ยว

พิธีมอบเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ประจำปี พ.ศ. 2568

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย กรมการท่องเที่ยว จัดพิธีมอบเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Standard) ประจำปี พ.ศ. 2568 ณ ห้องเซ็นทาราแกรนด์บอลรูม ชั้น L โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร หนึ่งในโรงแรมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยว ประเภทโรงแรม ให้แก่ผู้ประกอบการ โฮมสเตย์ ชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวที่ผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยจากกรมการท่องเที่ยว ทั้งประเภทที่พักเพื่อการท่องเที่ยว บริการท่องเที่ยว กิจกรรมการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว มาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน และรางวัลการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอาเซียน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 488 ราย ทั่วประเทศ

วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.30 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามอบหมายให้นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานกล่าวแสดงความยินดีและมอบเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย แก่ผู้ประกอบการ โฮมสเตย์ ชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวที่ผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยจากกรมการท่องเที่ยว ทั้งประเภทที่พักเพื่อการท่องเที่ยว บริการท่องเที่ยว กิจกรรมการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว มาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน มาตรฐาน ISO และ Green Destination ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในพิธีมอบเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Standard) ประจำปี พ.ศ. 2568 โดย อธิบดีกรมการท่องเที่ยว มอบหมายให้ นายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ทั้งนี้มี ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ โฮมสเตย์ ชุมชน แหล่งท่องเที่ยว ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และผู้แทนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ณ ห้องเซ็นทาราแกรนด์บอลรูม ชั้น L โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร

กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อยกย่องผู้ประกอบการ โฮมสเตย์ ชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพและเป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จ ผู้ซึ่งผ่านกระบวนการตรวจประเมินที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลและได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มุ่งเน้นการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยผ่านการพัฒนาคุณภาพบริการ การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและการกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยใช้ Soft Power และการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน เป็นเลิศทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับสากลพร้อมเสริมสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางคุณภาพระดับโลก ทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ คุณค่า และมูลค่า ให้เครื่องหมายมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย “ช้างชูงวงเริงร่า” เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและสาธารณชนทั่วไป ตลอดจนกระตุ้นและเชิญชวนให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเข้าสู่กระบวนการรับรองมาตรฐานเพิ่มขึ้น

พิธีมอบเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยว จำนวน 25 มาตรฐาน รวมทั้งสิ้น 488 แห่ง ได้แก่
- มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยว ประเภทโรงแรม จำนวน 48 แห่ง
- มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยว ประเภทรีสอร์ท จำนวน 37 แห่ง
- มาตรฐานที่พักแบบพำนักระยะยาว จำนวน 1 แห่ง
- มาตรฐานบริการร้านอาหารเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 69 แห่ง
- มาตรฐานเรือภัตตาคาร จำนวน 2 แห่ง
- มาตรฐานเรือรับจ้างเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 16 แห่ง
- มาตรฐานการบริการรถตู้ปรับอากาศสำหรับนักท่องเที่ยว จำนวน 16 แห่ง
- มาตรฐานการบริการรถโดยสารเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 14 แห่ง
- มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 47 แห่ง
- มาตรฐานการให้บริการและความปลอดภัยในศูนย์การค้าเพื่อการท่องเที่ยว จำนวน 6 แห่ง
- มาตรฐานการให้บริการในสถานที่จำหน่ายของที่ระลึก ประเภทสินค้าทั่วไป จำนวน 6 แห่ง
- มาตรฐานสถานที่จำหน่ายของที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว ประเภทสินค้าอัญมณี จำนวน 3 แห่ง
- มาตรฐานการจัดบริการในสถานประกอบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จำนวน 1 แห่ง
- มาตรฐานการจัดกิจกรรมค่ายพักแรม จำนวน 12 แห่ง
- มาตรฐานธุรกิจนำเที่ยว จำนวน 10 แห่ง
- มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 25 แห่ง
- มาตรฐานโฮมสเตย์ไทย จำนวน 30 แห่ง
- มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน จำนวน 63 แห่ง
- มาตรฐานโฮมสเตย์ไทยอาเซียน จำนวน 10 แห่ง
- มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนอาเซียน จำนวน 12 แห่ง
- มาตรฐานการบริการสปาอาเซียน จำนวน 11 แห่ง
- มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะอาเซียน จำนวน 29 แห่ง
- มาตรฐาน ISO 13009:2015 ข้อกำหนดและข้อแนะนำสำหรับการดำเนินงานเกี่ยวกับชายหาด จำนวน 11 แห่ง
- มาตรฐาน ISO 22483 : 2020 มาตรฐานท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้อง ประเภทข้อกำหนดบริการของโรงแรม จำนวน 7 แห่ง
- Good Travel Seal ภายใต้ มาตรฐาน Green Destination จำนวน 2 แห่ง

ทั้งนี้ มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมยกระดับห่วงโซ่อุปทานด้านการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการบริหารจัดการและการให้บริการที่ดีมีคุณภาพ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มและสร้างความยั่งยืนสู่ผู้ประกอบการ มีทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน อายุการรับรองมาตรฐาน 3 ปี ครอบคลุมการท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ ทั้งที่พัก สินค้าและบริการท่องเที่ยวด้านกิจกรรมท่องเที่ยว ด้านแหล่งท่องเที่ยว และด้านธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ผู้ได้รับการรับรองมาตรฐานได้รับประโยชน์ในการยกระดับคุณภาพการให้บริการและการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐ สร้างรายได้และเกิดความยั่งยืนในการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ช่วยเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการสถานประกอบการท่องเที่ยว ชุมชน โฮมสเตย์ และมัคคุเทศก์ที่ได้รับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ด้วยความมั่นใจ คุ้มค่า โดยสามารถค้นหาสถานที่และสถานประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ผ่านทางเว็ปไซต์ tts.dot.go.th และเฟซบุ๊ก Thailand Tourism Standard สำหรับผู้ที่สนใจก้าวเข้าสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2141 3235 และอีเมล [email protected]

#กรมการท่องเที่ยว #ช้างชูงวงเริงร่า #มาตรการท่องเที่ยวไทย

 #คนล่ะครึ่ง
21/05/2025

#คนล่ะครึ่ง

รมว.ท่องเที่ยว ชงงบ 3.1 พันล้าน ดัน เที่ยวไทยคนละครึ่ง หนุน OTA - เหมาลำ
📌 กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอใช้งบ 3,180 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ผ่านโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” กลับมาอีกครั้ง ช่วยค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวสูงสุด 50% โดยแบ่งสิทธิเที่ยวเมืองหลักและเมืองรอง เริ่มเปิดให้ใช้สิทธิ 1 ก.ค.นี้ จำนวน 1 ล้านสิทธิ
🛫 นอกจากนี้ยังเสนอของบ 800 ล้านบาท สนับสนุนผู้ประกอบการผ่าน OTA ไทย-ต่างชาติ รวม 21 ราย และอีก 500 ล้านบาทสำหรับเปิดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หวังดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศในช่วงกลางปีนี้ พร้อมเดินหน้าพัฒนาห้องน้ำ-ป้ายต้อนรับตามแหล่งท่องเที่ยว ด้วยงบรวมกว่า 400 ล้านบาท
🌄 งบทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลปรับมาใช้เพื่อเร่งฟื้นฟูภาคเศรษฐกิจ 4 ด้านหลัก หนึ่งในนั้นคือการท่องเที่ยว คาดว่าแผนทั้งหมดจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ ก่อนเดินหน้าในช่วงกลางปี 2568

13/05/2025
10/05/2025
 #เที่ยวชุบชีวิตแก้วิกฤตโลกรวน
10/05/2025

#เที่ยวชุบชีวิตแก้วิกฤตโลกรวน

พาดู 4 แนวทาง Revive Tourism เที่ยวชุบชีวิต กู้วิกฤตโลกรวน
ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าธุรกิจท่องเที่ยวก็เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ผลิตคาร์บอนเยอะเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทำให้ปัญหาภาวะโลกเดือดย่ำแย่ลง แนวคิดด้านความยั่งยืนจึงเป็นหลักสำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวควรนำมาปรับใช้ในธุรกิจอย่างเคร่งครัดและจริงจัง
หนึ่งในแนวทางส่งเสริมความยั่งยืนให้กับธุรกิจท่องเที่ยวคือ “Revive Tourism” คำว่า “Revive” หมายถึง การฟื้นคืนชีวิตให้กับบางสิ่ง ซึ่งในความหมายนี้คือการเที่ยวเพื่อฟื้นคืนชีวิตให้กับโลกของเรา ผ่านโมเดลธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนนั่นเอง
Revive Tourism จะมีแนวทางใดบ้างที่สามารถเป็นโมเดลน่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในบทความนี้ TAT Academy จะพาทุกท่านไปสำรวจแนวทางต่าง ๆ พร้อมดูตัวอย่างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการ “Revive” ไปพร้อม ๆ กัน!
1. Repair Community - เที่ยวไปซ่อมไป
เมื่อคุณมีข้าวของเครื่องใช้ที่ชำรุดแล้ว เช่น กระเป๋าซิปแตก จักรยานพัง อย่าเพิ่งทิ้งให้กลายเป็นขยะ แต่ควรนำมาซ่อมแซมเพื่อนำมาใช้ต่อมากกว่า เพราะการซ่อมแซมเป็นการรักษาสิ่งของชิ้นนั้นไว้ให้อยู่กับเราได้นานขึ้น ช่วยลดการใช้ทรัพยากร และส่งผลให้เราสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วย ดังนั้น ‘การซ่อมแซม’ จึงควรเป็นตัวเลือกใหม่ที่ต้องมองหาเป็นอันดับแรก
2. Recular District - ชุมชนหมุนเวียน
เมื่อโลกกำลังก้าวเข้าสู่การเป็น ‘Circular Economy’ หรือ ‘เศรษฐกิจหมุนเวียน’ ซึ่งคือแนวคิดการนำทรัพยากรที่ใช้แล้วมาแปรรูป และนำกลับไปใช้ได้อีกในอนาคต เพื่อให้สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การแก้ปัญหาการใช้ทรัพยากรเกินซึ่งเกิดจากอัตราการขยายตัวของประชากรโลก และปัญหาการจัดการขยะ ซึ่งแนวคิดนี้ไม่ได้อยู่ไกลตัวของเรา แต่สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ในระดับเล็ก ๆ ตั้งแต่หมู่บ้าน ชุมชน เขต เป็นต้น
3. Rebuilding - ตึกเก่า ที่เที่ยวใหม่
เราคงเคยเห็นตึกหรืออาคารที่ถูกทิ้งให้ร้างกันมาบ้าง เคยสงสัยกันหรือเปล่าว่าสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ถูกจัดการอย่างไร? แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วมักถูกทุบทิ้งเพื่อสร้างอาคารขึ้นมาใหม่ หรือในบางกรณี อาคารร้างอาจอยู่ใกล้ย่านที่อยู่อาศัยของผู้คนจนเกินไป ทำให้ไม่สามารถทำลายด้วยการทุบทิ้งได้ มิฉะนั้นจะส่งผลต่อประชาชนผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้นและละแวกใกล้เคียงกัน ส่งผลให้เราต้องสูญเสียพื้นที่นั้นไปโดยเปล่าประโยชน์ คงจะดีไม่น้อยหากเราสามารถใช้ประโยชน์จากอาคารร้างเหล่านั้นได้
4. Rewear Clothes - ใส่ซ้ำนำกลับมาใส่ใหม่
เชื่อว่าเมื่อหลายคนเห็นว่าเสื้อขาด กางเกงเป็นรู ตัวเลือกแรกที่จะใช้แก้ปัญหาคือการซื้อใหม่ แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วการซ่อมเสื้อผ้าก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เพราะวงการแฟชั่นเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สร้างคาร์บอนมหาศาล ทั้งเทรนด์แฟชั่นต่าง ๆ การบริโภคแบบฟาสต์แฟชั่น ล้วนแล้วแต่เป็นหนึ่งในตัวการสำคัญของปัญหาภาวะโลกร้อน
ในยุคที่เกิดการบริโภคเกินความจำเป็น (Overconsumption) สิ่งที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจะสามารถช่วยโลกของเราได้ก็คือการนำเอาแนวคิดความยั่งยืนไปปรับใช้ในธุรกิจอย่างเป็นจริงเป็นจัง แนวคิดแบบ Revive Tourism หรือชุบชีวิตโลกผ่านการท่องเที่ยวก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมที่มีการใช้ทรัพยากรอย่างมหาศาลอยู่ตลอดเวลา

อ่านบทความเต็มได้ที่: https://bit.ly/4d8SKvX

ที่อยู่

ตำบลเกาะคอเขา
Amphoe Takuapa
82190

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนเกาะคอเขาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนเกาะคอเขา:

แชร์