เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/103276629493868/

Japan I Plan พาเที่ยวญี่ปุ่น, Bangkok (2025)

03/06/2025

พาไปเที่ยว Takayama---Kamikochi---Shirakawago---Kanazawa ครับ

04/11/2023

วันนี้เราจะไปเมืองใต้สุดของเกาะคิวชูที่ไม่ค่อยมีคนมาเยือน ซึ่งก็คือเมืองคาโกชิม่านี่เอง ผมมาเมืองนี่ตอนปี 2014 เมืองนี้มีจุดเด่นคือยังมีภูเขาไฟซากุระจิม่าที่ทุกวันนี้ยังประทุอยู่ทุกปี รวมถึงใครจะรู้ว่าเมืองนี้คือต้นกำเนิดของหมูคุโรบุตะนะเออ

เราสามารถเดินทางมาคาโกชิม่าได้แบบสะดวกที่สุดโดยใช้รถไฟชินกันเซ็น ซึ่งผมได้ซื้อเป็น all Kyushu rail pass แบบ 5 วันนั่งได้ไม่อั้น ถึงแม้ว่าตอนนี้ Japan nationwide JR pass ราคาจะขึ้นไปเป็นสองเท่าแล้วแต่ของคิวชูขึ้นแค่ 10เปอร์เซ็นต์เท่านั้นยังถือว่าคุ้มอยู่ครับ มาถึงปุ๊ปก็เดินเล่นแถวสถานีก่อนเลย รู้สึกตกใจอย่างนึงว่าเมืองนี้จริงๆก็ใหญ่เหมือนกันนะ เหมือนเป็นศูนย์กลางภาคใต้ของคิวชูเลย มีห้างใหญ่ๆ ถนนคนเดินมากมาย แน่นอนว่ามาถึงถิ่นเราก็รีบหาร้านปิ้งย่างเพื่อไปชิมหมูคุโรบุตะกันเลยทันทีครับ หลังจากนั้นเราก็ได้จองตัวเรือเฟอร์รี่ไว้เพื่อที่จะนั่งไปที่เกาะซากุระจิม่า โชคไม่ค่อยดีที่วันที่เราไปมีฝนตกและอากาศไม่ค่อยเป็นใจซักเท่าไหร่ พอเรือเฟอร์รี่ถึงเกาะเราก็ซื้อ local tour เพื่อให้เค้าพาเรานั่งบัสเที่ยวครับ จุดที่แปลกคือถึงแม้ว่าภูเขาไฟบนเกาะนี้จะประทุทุกปีซึ่งจะปล่อยผงขี้เถ่าลงมาเป็นเหมือนหิมะสีดำปกคลุมเมือง แต่บนเกาะกลับยังมีคนใช้ชีวิตอาศัยอยู่ปกติ เพียงแต่จะมีบังเก้อร์หลุมหลบภัยให้หนีได้เวลาภูเขาไฟประทุครับ

โดยรวมเมืองนี้ก็มีจุดเด่นหลักๆประมาณนี้ ถ้ามาฟูกุโอกะบ่อยๆแต่ไม่เคยลงมาคาโกชิม่าก็น่าจะลองซักครั้งนะครับไม่ผิดหวังแน่นอน

28/08/2023

หายไปนาน รอบนี้กลับมาพร้อมเรื่องสนุก เรายังอยู่ในคิวชูเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือออกชนบท รูปเซทนี้มาจากปี 2014 ได้เกิดไอเดียว่าอยากไปผจญภัย ไปลุยๆ ผมเลยตัดสินใจแพลนการเดินทางไปที่ภูเขาไฟอาโสะ (A*O) ซึ่งอยู่ใจกลางเกาะคิวชู และจองที่พักไปเป็นแบบ โฮสเทลถึ่งโฮมสเตย์ การเที่ยวอาโสะผมแนะนำให้เช่ารถมาน่าจะดีที่สุดนะครับ

ความสนุกเริ่มจากการเดินทางที่ยากหน่อยเพราะเราต้องนั่งรถไฟจากสถานีคุมาโมโตะโดยใช้ JR hohi line ไปต่อรถไฟที่สถานี Tateno โดยต่อรถไฟสาย local เราไม่ได้ไปสถานี A*O เพราะว่าเราจะไปพักที่ Guest house little asia A*O ครับ สรุปคือเราตกรถไฟเพราะว่าขึ้นผิดขบวนและสมัยก่อนคนแถวนั้นไม่มีใครที่พูดภาษาอังกฤษได้เลย แต่เราได้ลุงท่านนึงช่วยโทรไปที่ Guesthouse ให้และพาเราต่อรถไฟได้ถูกขบวน มาถึงสถานี Choyo คือเป็นสถานีเล็กมากๆที่มีเจ้าของเป็นคนท้องถิ่น พอมาถึงรถบัสก็หมดแต่เจ้าของสถานีพาเรานั่งรถไปส่งถึง Guesthouse เลยน่ารักมากคนในชนบทของญี่ปุ่นนี่ใจดีจริงๆ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของผมที่ได้ออกมาพักในชนบทของญี่ปุ่นจริงๆ แบบไม่มีอะไรเลยแม้แต่ 7/11 ก็ไม่มี มีแต่ร้านโชห่วยหรือร้านอาหารเล็กๆล้อมรอบไปด้วยทุ่งหญ้าและขุนเขา ทางที่พักได้เตรียมห้องพักไว้ให้เราพร้อมกับอาหารเย็นซึ่งหลักๆจะเป็นเมนูพืชผักท้องถิ่นครับ พอกินข้าวเสร็จทางที่พักแนะนำให้เราเดินไปใช้บริการบ่อออนเซ็นที่ต้องเดินไป อยู่ใกล้ๆ แต่ต้องเสียตังนะ ได้บรรยากาศดีครับ มีโซนoutdoorด้วย ถ้าไปช่วงกันยาตุลาจะเริ่มหนาวๆหน่อยครับ จบวันแรก

วันถัดมาเริ่มวันโดยการตื่นมากินข้าวเช้าตามเวลา การพักguesthouseเราจะเจอคนอื่นๆมากมายที่มาพักด้วย ที่แปลกใจคือคนส่วนมากเป็นคนญี่ปุ่นจากจังหวัดอื่นๆ ไม่มีคนต่างชาติเลย วันนี้เราแพลนไว้ว่าจะไปเที่ยวที่ปล่องภูเขาไปอาโสะเลยครับ ซึ่งถ้าเราไม่มีรถก็ต้องต่อรถบัสหลายต่อหน่อย แต่เราได้รู้จักกับคนญี่ปุ่นคนนึงที่ guesthouse ซึ่งเค้าขับรถมาเที่ยวจาก Tokyo เค้าอาสาพาเที่ยวโดยคิดเงินเราคนละ 2,000เยนซึ่งผมมองว่าคุ้มมากเลยตัดสินใจไปกับเค้าครับ เพราะเค้าจะพาเราไปหลายที่ซึ่งส่วนใหญ่เราแทบไม่รู้จัก

เริ่มแรกเรามาแวะกันที่ตาน้ำแร่ของจังหวัดนี้ครับ ถ้าเรายืนหน้าบ่อน้ำจะเห็นตาน้ำและน้ำแร่ที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดิน มีขันให้ตักดื่มได้เลย เนื่องจากมันไม่ใช่บ่อน้ำนิ่งและมันไหลต่อลงไปในลำธาร ผมเลยตัดสินใจลงตักชิมดู ก็สะอาดสดชื่นจริงๆครับ เอเวียงดีๆนี่เอง ต่อไปเราขับขึ้นไปที่ภูเขาไฟอาโสะ พอจอดรถแล้วก็เดินขึ้นไปที่ปล่องได้เลย สมัยนี้ไม่น่าจะได้ขึ้นแล้วครับเพราะปะทุบ่อย พอดูปล่องภูเขาไฟเสร็จกะลังเดินกลับลงมาไก้ด์ญี่ปุ่นของเราก็พาทัวร์เดินออกนอกเส้นทางหรือเขตที่เค้ากั้นไว้ครับ จริงๆเราก็ไม่อยากตามไปแต่เค้าบอกมาเหอะๆ พาเราปืนขึ้นเนินไปดูวิวซึ่งก็สวยมากๆครับ แต่ในที่สุดก็มียามที่ดูแลมาเป่านกหวีดให้เข้ามาในเขต ไม่น่าเชื่อว่าคนญี่ปุ่นจะทำผิดกฎ แต่ก็คงมีบ้างอ่ะเนอะ ขากลับได้แวะจอดรถดูทุ่งหญ้า kusasenri ซึ่งออกแนวยุโรปๆหน่อย

โดยรวมประทับใจมากๆกับทริปบ้านนอกญี่ปุ่นและมิตรภาพดีๆที่ได้รับจากชาวบ้านญี่ปุ่นนะครับ ใครจะมาผมแนะนำให้เช่ารถขับมาจะดีกว่านะครับ เพราะต้องใช้รถเดินทางเยอะ รถเมล์กะรถบัสก็ไม่ค่อยมีครับ

31/07/2023

*****คุมาโมโตะตอนที่ 2 สวนซุยเซนจิและใบไม้เปลี่ยนสี*****

จบจากปราสาทคุมาโมโตะก็มาต่อที่สวนหย่อม TOP3 ของญี่ปุ่น ณ สวนซุยเซนจิครับ รูปในเซ็ทนี้จะมาจากทริปปี 2022นะครับเพราะทุกอย่างเหมือนเดิมจากที่เคยไปเมื่อปี 2014 การเดินทางง่ายมากนั่งรถรางมา tram stop: Suizenji Koen ลงปุ๊ปเดินเข้าซอยไม่เกิน 50 เมตรถึงเลยครับ สวนนี้ชิวมาก เงียบๆ น้ำใส มีปลาคาร์บสีสวยๆ แต่จุดเด่นคือต้นไม้และการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่นครับ ลองดูรูปประกอบไปด้วย เข้ามาในสวนนี้ต้องรักษาความสงบหน่อยนะครับเพราะทุกคนจะเข้ามาเสพความสงบ

ต่อจากสวนซุยเซนจิก็จะพาไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ศาลาว่าการจังหวัดครับ เราสามารถ google: Kumamoto Prefectural Government Office แล้วเดินไปได้เลยครับประมาณ 1 กิโล ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่เป็นในแปะก๊วยซึ่งจะเป็นสีเหลืองแบบสวยมากๆเลยหาดูได้ยาก ตรงหน้าศาลาว่าการจะมีรูปปั้น Luffy จาก Onepiece ด้วยนะครับแต่ผมไม่ได้อินกับการ์ตูนนี้เท่าไหร่เลยไม่ได้ถ่ายมา สิ่งที่ตอนเดินเข้าไปถ่ายรูปในแปะก๊วยคือ เจอคนเวียดนามเยอะมากๆ แต่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวเหมือนเป็นแรงงานมากกว่า ซึ่งวันที่ไปเป็นวันหยุดด้วยเค้าก็คงมาเที่ยวกันแต่มีเป็นร้อยคน ทริปนี้เรามากันอาทิตย์ที่3ของเดือนพฤศจิกายนนะครับเผื่อใครจะตามรอย แต่ต้องเช็คปฎิทินการคาดการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีนะครับ เพราะทุกปีจะไม่เหมือนกัน เอาจริงๆผมฟรุ้คมากเพราะมาได้จังหวะพอดีก่อนจะร่วงหมด

ตอนต่อไปจะพาไปเที่ยวภูเขาไฟ A*O ที่เป็น Active Volcanoนะครับ เป็นสมัยปี2014ก่อนจะเกิดการปะทุจากแผ่นดินไหวนะครับ สมัยนี้เค้าห้ามเข้าไปใกล้แล้วครับออกไปบ้านนอกแบบสุดๆ มีเรื่องฮาๆหลายอย่าง ติดตามชมได้เลย

30/07/2023

***** เที่ยวคุมาโมโตะ ปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นและสวนซุยเซนจิ(1ใน3สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น) *****

ขอย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ก่อนแผ่นดินไหวจะสร้างความเสียหายให้กับปราสาทและสถานที่ต่างๆในเมืองนี้ ตอนนั้นปราสาทอยุ่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเลยอยากจะเอารูปมาให้เพื่อนๆได้ชมและท่องเที่ยวไปด้วยกัน

เมืองคุมาโมโตะเป็นเมืองขนาดกลางๆ เล็กกว่าฟุกุโอกะนิดหน่อย แต่ก็มีห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้งครบครัน การเดินทางมาที่คุมาโมโตะแบบง่ายและเร็วที่สุดคือขึ้นรถไฟชินกันเซ็นครับประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น พอถึงแล้วก็ซื้อ tram pass 1 day สำหรับนั่งรถรางแบบไม่อั้น สถานที่ท่องเที่ยวในคุมาโมโตะหลักๆจะมี 2 ที่คือ ปราสาทคุมาโมโตะและสวนซุยเซนจิ

เริ่มจากปราสาทคุมาโมโตะก่อนเลย นั่งรถรางจากหน้าสถานีกลางคุมาโมโตะมาลงสถานี Kumamotojo-Mae แล้วเดินย้อนมานิดนึง(จะเห็นคนเดินมาเยอะครับ)จากนั้นก็เดินไหลตามป้ายมาซื้อตั๋วเข้าชมแล้วจะมีคนแนะนำทางครับ ใครมากับผู้ใหญ่หรือเด็กควรจะเตรียมตัวเดินให้พร้อมนะครับ เดินเยอะนะบอกไว้ก่อน! แต่พอขึ้นไปถึงข้างบนนี่สวยคุ้มค่ามาก หายเหนื่อยเลย สมัยปี2016 เค้าจะอนุญาตให้เราเข้าไปถ่ายรูปในห้องโถงของตัวปราสาทได้แต่สมัยนี้ไม่มีแล้วครับ

ใครมาคุมาโมโตะแล้วหิวก็สามารถหาของเด็ดของเมืองทานได้นะครับ หลักๆก็เนื้อม้าและราเมงซุปกระดูกหมูใส่กระเทียมสับเยอะๆ แต่ผมไม่ได้กินทั้งสองอย่างครับ ผมไปแวะกินร้าน Katsukura ที่ห้างTsuruya (tram stop: Suidocho) เป็นร้านหมูทอดทงคัตสึที่มาเปิดที่ไอค่อนสยามบ้านเรา ต้องบอกว่ามาตรฐานเดียวกันเลย สาขาที่มาเปิดบ้านเราทำได้ดีมากๆ สวนถ้าใครอยากไปช้อปปิ้งถนนคนเดินพร้อมแหล่งอาหารก็เชิอที่ tram stop: Karashimacho ครับ

6-7รูปสุดท้ายถ่ายเมื่อปี2022นี้ครับ

ตอนต่อไปจะพาไปต่อกันที่สวนซุยเซนจิครับ

#เที่ยวญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง #ทัวร์ญี่ปุ่น

26/07/2023

JR Pass ขึ้นราคาทั้งประเทศประมาณ 20-80% JR Pass nationwide กับโซนโตเกียวขึ้นเยอะสุด แนะนำให้วางแผนทริปดีๆ เช่ารถอาจจะราคาพอๆกันและสะดวกกว่า

25/07/2023

*****ถ้ามาเบปปุแล้วต้องไปยูฟุอิน*****

สองครั้งแรกที่ผมไปเยือนเบปปุในช่วงระหว่างปี 2013 ถึง 2016 ผมไม่ได้ไปยูฟุอินเพราะด้วยเวลาที่อัดแน่นมากๆย้ายเมืองตลอด ผมพึ่งได้ไปยูฟุอินในทริปคิวชูสุดปลายปี2022 ซึ่งก็เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี นั่งรถไฟJRแบบ local จากสถานีเบปปุไปประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นไปลงที่ Yufuin station หรือถ้าใครจะเช่ารถขับไปก็โอเค ระหว่างทางธรรมชาติสวยมาก ป่า เขา แม่น้ำลำธาร

พอไปถึงที่ยูฟุอินก็เดินออกมาหน้าสถานีแล้วเดินตรงตามถนนข้างหน้าไปเลย จุดมุ่งหมายของเราคือทะเลสาบคินริน แน่นอนว่าระหว่างทางก็จะมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่มากมาย เริ่มจาก ร้านไอติมชาเขียวTelato/ ร้านโดนัท Milch/ ร้านขายโครเกtYufuin Kinshoเจ้าดัง/ shop studio ghili(totoro)/ Yufuin Floral Village/ Snoopy Shop/ และในที่สุดก็เดินถึงทะเลสาบคินรินครับ

โชคดีที่ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดีครับเลยได้รูปสวยๆมา ตอนกลางวันเราก็หากินร้านอาหารทั่วไปตามทางที่เราเดินผ่านนั่นแหล่ะครับ อย่าลืมแวะร้านไอติมชาเขียวนะครับเลือกระดับความเข้มได้ด้วยนะครับ ถ้าใครอยากกินข้าวแบบมีบรรยากาศหน่อยก็เชิญร้านอุด้งที่ต้องทะเลสาบคินรินเลยครับมีอยู่ร้านเดียว
ถ้าเป็นไปได้สำหรับการเดินทางผมขอแนะนำเป็นนั่งบัสหรือเช่ารถมาเองดีกว่าเพราะว่าระบบปรับอากาศในรถไฟมันเป็นฮีทเตอร์ที่ร้อนมากๆครับและหาที่เปิดกระจกก็ไม่ได้

ท้ายสุดนี้ก็ขอฝากไว้ว่า ไม่ว่าชีวิตเราจะเจอเรื่องยากลำบาก ความผิดหวัง ความเครียด อกหัก หรือปัญหาอื่นๆ พอไฟล์ทเราถึงญี่ปุ่นและเราเดินเหยียบประเทศเค้าปุ๊ป มันทำให้เรายิ้มออกและลืมเรื่องแย่ๆทั้งหมดเลยนะ เคยเป็นไหม?

#เที่ยวญี่ปุ่น #เที่ยว #เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเอง #คิวชู #เบบปุ #ยูฟุอิน

18/07/2023

ร้าน Toyotsune ที่ Beppu

09/07/2023

*****เมืองเล็กน่ารักที่ทุกคนต้องมาในคิวชู*****

มองย้อนกลับไป การเที่ยวคิวชูในปี2013นั้นเป็นอะไรที่สวรรค์มาก เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อย คนใจดีไม่เหมือนเมืองใหญ่ โรงแรมและอาหารการกินราคาถูกและรสชาติดี

Kyushu Part 2 "เบปปุ"คือเมืองที่ผมชอบมากที่สุดของเกาะคิวชู บรรยากาศจะเงียบๆ คนพอมี ไม่เยอะจนเกินไป กลางคืนมีร้านให้กินเยอะตามถนนหลัก ล่าสุดไปมาปลายปี 2022 ก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมๆไว้(สมัยปี2013 โคตรเงียบเพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยมาก) การเดินทางมาจากก็ง่ายมากๆครับใครที่ไม่ได้เช่ารถขับก็นั่ง limited express Sonic จากสถานีฮากาตะ 2 ชั่วโมง 6,000เยนต่อเที่ยวถึงเลย รถไฟจะเลาะผ่านเมือง Kitakyushu (ติดตามตอนต่อไป) และแนวชายทะเลมาเรื่อยๆวิวสวยดีครับ

เบปปูมีจุดเด่นคือข้างใต้ดินของเมืองนี้เป็นแหล่งน้ำพุร้อนหรือว่าออนเซนธรรมชาติ ถ้ามาในหน้าหนาวจะเห็นทุกบ้านมีปล่องปล่อยไอน้ำออกมาน่ารักดีครับ เดินๆไปก็มีไอน้ำออกมาจากท่อ บ้านทุกหลังสามารถจะขออนุญาตเจาะและสร้างระบบนำน้ำออนเซนขึ้นมาใช้ได้แต่ระบบค่อนข้างแพงประมาณ1,700,000เยน🥲 ดูได้ตามสารคดีนี้
https://www.youtube.com/watch?v=8unEF9XAyBY&t=333s

สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆก็จะเป็นน้ำพุร้อนทั้ง 7 ที่ (5ที่จะอยู่ใกล้ๆกัน อีก2ที่ก็นั่งบัสต่อไปอีก) สามารถซื้อ1day bus pass ได้ที่สถานีเบปปุ1,000เยน ผมแนะนำว่าให้เข้าแค่สองที่พอคือ Umi Chigoku และ Chinoike Chigoku ที่เหลือไม่คุ้มเลยครับเหมือนเสียเงินไปดูอะไรก็ไม่รู้ นอกนั้นก็มีแค่นอนอบทรายโดยนั่งรถไฟไปที่สถานี beppu daigaku แล้วเดินอีก 3 นาทีให้กูเกิ้ล beppu sand bathครับ

สมัย2013ผมไปพักโฮสเทลครับก็เก่าๆธรรมดาคืนละ800-900ร้อยบาทต่อคนแต่สะอาดนะ ถ้าตอนนี้แนะนำโรงแรมแถว beppu station ซึ่งแนะนำ super hotel beppuหรือAmanek(ตึกใหม่)น่าจะสะดวก หรือถ้าใครอยากได้วิวทะเลก็จองริมทะเลซึ่งราคาจะสูงหน่อยแต่จะมีออนเซนอยู่ชั้นบนโรงแรมได้บรรยากาศดีครับ แต่อย่าจองโรงแรมที่ดูเก่านะครับ เพราผมเคยเจอประสบการณ์ผี 👻👻👻 เลือกอันที่ดูใหม่ๆหน่อย

ไปมาล่าสุดเจอร้านปิ้งย่างอร่อยมาก ผมไม่ทานเนื้อทานแค่หมูยังอร่อย และที่สำคัญคือ มีเมนูอังกฤษ เป็นมิตรกับต่างชาติ และราคาถูก ชื่อร้าน yakiniku arata https://goo.gl/maps/J5HJACqvz3npVviH9
แต่ถ้ามาเบปปุแล้วไม่มากินร้านเทมปุระที่อร่อยเทพแล้วก็เหมือนกับมาไม่ถึงครับ ร้านมีสองสาขา สาขาแรกอยู่ข้างสถานีเบปปุอีกสาขาอยู่ริมทะเล ผมแนะนำสาขาริมทะเลเพราะนั่งสบายกว่า ร้านชื่อ Toyotsuneครับ https://goo.gl/maps/ZRcqG1ewk1MPi7Pe8
หรือใครที่อยากหาที่ที่มีของกินให้เลือกเยอะๆก็มีหน้าสถานีหรือเดินไป Yumetown เบปปุครับประมาณ 1 โล เดี๋ยวจะมาโพสคลิป reel ของอาหารให้ดูนะครับ

ขอให้มีความสุขกับการท่องเที่ยวนะครับ เพราะการท่องเที่ยวเยียวยาทุกสิ่ง

#เที่ยวญี่ปุ่น #เบปปุ #ออนเซน #น้ำพุร้อน #เที่ยวคิวชู #คิวชู #ฟุกุโอกะ

08/07/2023

*****ณ วันนี้เงินเยนอยู่ที่ประมาณ 0.24บาทแล้วนะ*****

สมัยปี 2013 ผมเคยไปเที่ยวญี่ปุ่น14วันแบบแบคแพค นอนตามโฮสเทล ย้ายที่นอนไปเรื่อยๆวันละเมือง เริ่มตั้งแต่Kyushuไปจนถึงโตเกียวโดยการซื้อKyushu JR pass เพื่อใช้ในคิวชู

Part 1 เริ่มจากไปนากาซากิซึ่งเป็นเมืองท่าที่สวยงามมีภูเขาล้อมรอบมีประวัติโดนบอมสมัยสงครามโลกครั้งที่สองและมี 1ใน3 Chinatownของญี่ปุ่นซึ่งต้องแวะไปทานอาหารอร่อยๆ แล้วขึ้นไปที่clover gardenเสร็จแล้วไปต่อที่ Peace park โดยการเดินทางทั้งหมดใน Nagasaki เราจะซื้อเป็น one-day tram pass 500yen โคตรคุ้มนั่งได้ไม่อั้น จริงๆมันมีจุดชมวิวบนภูเขา Inasa แต่ผมมีแพลนจะต้องย้ายเมืองเช้าวันถัดมาจึงไม่ได้ไปครับ อ่อมันมีทัวร์นั่งเรือชมเกาะร้างGunkanjimaที่เคยเป็นเหมืองและมีคนงานอาศัยอยู่มากมาย แต่โชคไม่ดีที่ตอนนั้นเค้าไม่ได้เปิดให้ขึ้นไปเดินบนเกาะครับ

การเดินทางไป นากาซากิ 2023

วิธีที่เร็วที่สุดตอนนี้คือการซื้อ Kyushu pass เริ่มจากสถานีฮากาตะแล้วนั่ง limited express Kamome ไปถึงสถานี Shin-Tosu เพื่อโดนบังคับให้เปลี่ยนรถเป็นชินกันเซ็นสายใหม่สุดในญี่ปุ่น(เนื่องจากยังสร้างต่อไปยัง Hakataไม่เสร็จ)ซึ่งง่ายมากๆครับ ไม่ต้องกลัวหลงเลยแค่เดินข้ามชานชาลา หลังจากนั้นก็จะมาลงที่นากาซากิเลยครับ

#เที่ยวญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง #นากาซากิ #เที่ยวคิวชู #คิวชู #ฟุกุโอกะ

01/07/2023

สวัสดีครับ เนื่องจากผมเป็นคนที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่นมากๆ เที่ยวมาตั้งแต่ปี2005 เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้กับเพื่อนๆได้ชมผ่านรูปภาพและวีดีโอที่เคยบันทึกไว้ ซึ่งอาจจะเป็นรูปเก่าบ้างใหม่บ้างสลับกันไป รวมถึงของกินที่ญี่ปุ่นด้วยครับ จริงๆอยากจะตั้งชื่อ Japan I Can แต่ดันไปเหมือนกับเวปจองโรงแรมที่ใหญที่สุดของญี่ปุ่นคือ Japanican.com เลยเป็น Japan I Plan เพราะผมอยากให้ประสบการณ์ของผมได้ช่วยเพื่อนๆในการเตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นนะครับ

Japan I Plan พาเที่ยวญี่ปุ่น

03/06/2025

04/11/2023

28/08/2023

31/07/2023

30/07/2023

26/07/2023

25/07/2023

18/07/2023

09/07/2023

08/07/2023

01/07/2023

ที่อยู่

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ทางลัด

แชร์

ประเภท